โครงการให้คำปรึกษาจัดทำระบบบริหารคุณภาพ ISO/TS16949:2009

แนวคิดและสรุปโดยย่อเกี่ยวกับมาตรฐาน ISO/TS 16949      อุตสาหกรรมโลกได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านการตลาด การแข่งขันทางด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การพัฒนาทางด้านเทคนิค และวิธีการควบคุมคุณภาพมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ในอดีตอุตสาหกรรมการผลิต ผลิตอะไรก็ขายได้ เนื่องจากผู้ผลิตมีน้อยกว่าผู้ซื้อ แต่ ณ ปัจจุบันผู้ขายมีมากกว่าผู้ซื้อ ซึ่งผู้ซื้อมีโอกาสในการเลือกมากกว่า ฉนั้นผู้ขายจำเป็นต้องแข่งขันกับคู่แข่งทั้งในด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ราคา การส่งมอบสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และต้องปรับองค์กร ให้มีการพัฒนาระบบการบริหารอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งลูกค้าเองนั้นต่างก็เป็นผู้กำหนดมาตรฐานหลายอย่าง บังคับให้ดำเนินการเช่น มาตรฐานยานยนต์ QS9000

     แต่ ณ  ปัจจุบันมาตรฐานดังกล่าวได้ถูกมาตรฐานฉบับใหม่ที่มีการยอมรับเป็นอย่างมากในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ นั้นก็คือ ISO/TS 16949:2009 โดยองค์กร IATF ประกาศใช้เป็นทางการเมื่อ Mar 2002 แนวทางการดำเนินงานเพื่อให้ระบบคุณภาพ ISO/TS 16949 บรรลุเป้าหมายนั้นไม่ใช่แค่ใบรับรองแต่ต้องเป็นการพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืน และมีระบบการบริหารที่สามารถแข่งกับคู่ค้าได้ รวมทั้งทำอย่างไรถึงจะยกระดับความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ การบริหารระบบโดยรวมนั้นเน้นกระบวนการของลูกค้าเป็นสำคัญ มีการปรับเปลี่ยนการนำกลยุทธการบริหารโดยใช้เทคนิค Process Approach จะเน้นในส่วนของการจัดทำให้ระบบมีประสิทธิผล ต้องวัดผลได้จากการดำเนินการนำระบบไปใช้งาน และจะไม่เน้นในเรื่องของเอกสารมากอย่างมาตรฐานฉบับที่ผ่านมา จะให้องค์กรเป็นผู้ออกแบบเอกสารในระบบเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กร และความซับซ้อนระหว่างหน่วยงาน

หัวข้อในการดำเนินการ

ขั้นตอน การวางแผน จัดโครงสร้าง และการฝึกอบรม

  • ทบทวนระบบการปฏิบัติงานทางด้านคุณภาพเดิมที่มีอยู่ปัจจุบันขององค์กร เพื่อวางแผนระบบงาน ให้เข้ากับข้อกำหนดมาตรฐาน ข้อกำหนดของลูกค้า และข้อกำหนดขององค์กรเอง
  • ฝึกอบรมและร่วมประชุมกับผู้บริหารระดับสูง เพื่อแนะนำระบบบริหารการจัดการด้านคุณภาพและความรับผิดชอบที่จำเป็นสำหรับผู้บริหารvประชุมเพื่ออธิบายโครงการและจัดทำแผนแม่บทสำหรับการจัดทำระบบบริหารการจัดการด้านคุณภาพ
  • ฝึกอบรมตัวแทนฝ่ายบริหาร (QMR), คณะกรรมการบริหารระบบคุณภาพ และคณะทำงาน (Working Team) ในเรื่องข้อกำหนดของ ISO/TS 16949 ในรายละเอียด เพื่อการเข้าใจ และประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
  • ทำการฝึกอบรมและศึกษาข้อกำหนดเฉพาะ สำหรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สำหรับกิจกรรม
  • APQP
  • FMEA
  • MSA
  • SPC
  • PPAP
  • กำหนดผู้รับผิดชอบกิจกรรม และทำแผนงานในรายละเอียด

ขั้นตอน การออกแบบระบบการทำงาน  การเขียนระบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนด

  • ให้คำแนะนำในการเขียน คู่มือคุณภาพ,  คู่มือกระบวนการ, วิธีทำงาน และคู่มืออ้างอิงต่าง ๆ
  • ให้คำแนะนำในการเขียนขั้นตอนปฏิบัติสำหรับข้อกำหนดสำหรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์
  • ให้คำแนะนำในการจัดตั้งทีมงานสำหรับการวางแผนคุณภาพผลิตล่วงหน้า (APQP Team)
  • ให้คำแนะนำในการกำหนดกระบวนการ และขั้นตอนปฏิบัติสำหรับกิจกรรม การคัดเลือก, การประเมิน และการพัฒนาผู้ส่งมอบผลิตภัณฑ์
  • ทบทวนการเขียนคู่มือคุณภาพ  คู่มือกระบวนการ, วิธีทำงาน และคู่มืออ้างอิงต่าง ๆ

ขั้นตอน การประยุกต์ใช้ระบบ

  • ให้คำแนะนำการประยุกต์ ใช้ระบบบริหารการจัดการด้านคุณภาพที่จัดทำขึ้น
  • ติดตามและทบทวนการประยุกต์ใช้ระบบ
  • ฝึกอบรมให้กับพนักงานที่จะเป็นผู้ตรวจติดตามระบบบริหารการจัดการด้านคุณภาพภายใน องค์กร เรื่อง Internal  Audit  for process approach

ขั้นตอน การตรวจประเมินเบื้องต้น

  • ดำเนินการตรวจประเมินเบื้องต้นก่อนการตรวจประเมินจริงโดยหน่วยงานให้การรับรองระบบ (Certify Body)
  • ช่วยเหลือและติดตามในการปรับปรุงแก้ไขเอกสาร / กระบวนการปฏิบัติงานที่ยังไม่สอดคล้องตามข้อกำหนด

จำนวนวัน และหมายกำหนดการในการดำเนินการ

  • จำนวนวันอยู่ที่เข้าให้คำปรึกษา และฝึกอบรมทั้งหมดไม่น้อยกว่า XX วันทำงาน
  • ระยะเวลาประมาณ 8~10 เดือน
  • กำหนดการตามเอกสารแนบ

ค่าใช้จ่ายสำหรับที่ปรึกษา

  • คิดเป็นเหมาจ่าย จำนวน 3 งวด  หรืออื่น ๆ  ตามข้อตกลง
  • รวมเป็นเงินทั้งสิ้น XXX,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายไม่รวมกันแปลเอกสาร หรือการจัดเตรียมเอกสารเพื่อการฝึกอบรมต่าง ๆ

ค่าใช้จ่ายสำหรับขอการรับรอง (ตัวอย่าง)

  • จำนวนคนประมาณ 200 คน
  • มีการ Assessment เป็น 2 stage
  • Stage I จำนวน 2 man day
  • Stage II จำนวน 5 ~ 6 man day
  • ค่าใช้จ่ายในการ Audit คิดเป็น man day ละ 18,000 ~ 24,000 บาท
  • Stage I จำนวน 2 man day ประมาณ 36,000 ~ 48,000 บาท
  • Stage II จำนวน 5 ~ 6 man day  ประมาณ 108,000 ~ 144,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายในการอื่น ๆ
  • ค่าขึ้นทะเบียน ประมาณ 15,000 บาท
  • ค่าออกใบ Certificate 10,000o  ค่าเดินทาง 1,000 ~ 1,500 บาท / เที่ยว
  • รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 177,000 บาท ~ 229,000 บาท
  • จ่ายโดยตรงต่อหน่วยงานที่ให้การรับรองระบบ (Certify Body)
  • ซึ่งในแต่ละ Certify Body ค่าใช้จ่ายค้างต้นอาจไม่เท่ากัน